Monday, November 18, 2013

กินข้าวกลางวันกับเพื่อนเก่าสมัยอยู่ปี ๑ จุฬาฯ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเขาว่า "Time flies" พวกเรา นิสิตเก่าจุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ ภาคสมทบ รุ่นที่ ๑๒ หรือพวกเราเรียกกันว่า TSC12 ที่เริ่มรู้จักกันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ (รหัส ๑๙) เผลอแพล็บเดียว ๓๗​ ปีแล้ว ที่พวกเรารู้จักกัน นัดกินข้าวกัน ได้มีโอกาสเจอกันจำนวนมากกว่าครั้งไหน มากัน ๒๑ คน จากในรุ่นประมาณร้อยคน บางคนก็ไม่ได้เจอกันจากนั้นมา ๓๖ ปีแล้ว ที่เรียกว่าภาคสมทบ เพราะว่าปี ๑ เราเรียนกันตั้งแต่ ๔ โมงเย็นไปจนถึงสองทุ่ม (หรือสามทุ่มถ้าทำแล็บไม่เสร็จ) แถมเลิกเรียนออกมารุ่นพี่พาไปซ้อมเชียร์ต่ออีก

ในเรื่องความคิด ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแก่ (แต่ว่าถ้าดูกาย มันก็มีเสื่อมไปตามกายสังขาร) ทั้งๆ ที่คนเรียกลุง อีกสักพักถ้าคนเรียกปู่คงค่อยว่าอีกที แต่ถามว่าจิตพร้อมไหมถ้าจะละกายนี้ ก็บอกเลยว่าพร้อม

ทบทวนความจำกันหน่อย ความจริงรุ่นเราก็เริ่มทันสมัยนะ
สมัยนั้นที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ลงทะเบียนกันแล้ว ได้สักสองปีก่อนรุ่นผมน่าจะได้ (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๗) การลงทะเบียนยุคนั้นก็คือ ต้องไปเก็บบัตรเจาะรู (punch card) สำหรับวิชาต่างๆ มาจากกล่องที่เขาเรียงไว้บนโต๊ะ แล้วก็เอามารวบรวม ซ้อนท้ายกับบัตรที่มีชื่อเรา แล้วก็เอาไปคิดเงิน แล้วก็ยื่นให้เขา ก็ถือว่าเสร็จ ไม่กี่อาทิตย์จากนั้นก็จะมีพรินท์เอ้าท์ออกมาให้อีกที พอสิ้นเทอมก็ไปรับพรินท์เอาท์เกรดจากสำนักงานคณบดี

อยากพูดต่ออีกว่า สมัยนั้น ผมเรียนเขียนโปรแกรมครั้งแรกตอนปี ๒ พ.ศ. ๒๕๒๐ ไปลงเรียนเขียนภาษา Fortran IV ที่คณะบัญชี ก็ต้องใช้เครื่อง IBM mainframe 370 ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ (ฝั่งตรงข้าม ใกล้หอเจ้าจอม ตอนนั้นดูเหมือนยังไม่ได้สร้างมาบุญครอง) ก็ต้องไปน่ังพิมพ์บัตรเจาะรู
ความจริงยังมีบัตรเจาะรูหลงเหลืออยู่ เป็นการบ้านสมัยนั้น ใช้เป็นที่คั่นหนังสือ ยัดไว้ในเล่มไหนก็จำไม่ได้ หนังสือมีอยู่หลายพันเล่ม กระจายกันไปตามตู้ทั่วบ้าน

อีกอย่างหนึ่งที่จะพูดไว้เป็นหลักฐาน คือสมัยผมแรกเข้าปี พ.ศ. ๒๕๑๙ นั่น จุฬาฯ ยังใช้ตัวสะกดว่า "จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" ตามที่ ร. ๖ พระราชทานนามมาแต่เดิม โดยไม่มีการันต์เหนือตัว "ณ" อยู่มาวันหนึ่ง มหาวิทยาลัยไปเชิญผู้เชี่ยวชาญภาษาไทยมาอภิปราย (จำไม่ได้เรื่องอะไร) ท่านผู้นั้นคงเจนบาลีหน่อย ออกเสียงเรียกนามมหาวิทยาลัยแบบบาลีว่า "จุ ลา ลง กะ ระ นะ มะ หา วิท ทะ ลา ลัย" บ่อยๆ ไม่นานมหาวิทยาลัยก็เลยมีมติให้เติมการันต์ไปเหนือตัว "ณ" ตั้งแต่นั้น เพื่อกันคนอ่านผิดอีก ส่วนผมไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่ก็ไม่มีใครออกมาประท้วงกัน

รูปนี้หมอ ลูกเพื่อนคนหนึ่งถ่ายให้




No comments:

Post a Comment