เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเขาว่า "Time flies" พวกเรา นิสิตเก่าจุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ ภาคสมทบ รุ่นที่ ๑๒ หรือพวกเราเรียกกันว่า TSC12 ที่เริ่มรู้จักกันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ (รหัส ๑๙) เผลอแพล็บเดียว ๓๗ ปีแล้ว ที่พวกเรารู้จักกัน นัดกินข้าวกัน ได้มีโอกาสเจอกันจำนวนมากกว่าครั้งไหน มากัน ๒๑ คน จากในรุ่นประมาณร้อยคน บางคนก็ไม่ได้เจอกันจากนั้นมา ๓๖ ปีแล้ว ที่เรียกว่าภาคสมทบ เพราะว่าปี ๑ เราเรียนกันตั้งแต่ ๔ โมงเย็นไปจนถึงสองทุ่ม (หรือสามทุ่มถ้าทำแล็บไม่เสร็จ) แถมเลิกเรียนออกมารุ่นพี่พาไปซ้อมเชียร์ต่ออีก
ในเรื่องความคิด ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแก่ (แต่ว่าถ้าดูกาย มันก็มีเสื่อมไปตามกายสังขาร) ทั้งๆ ที่คนเรียกลุง อีกสักพักถ้าคนเรียกปู่คงค่อยว่าอีกที แต่ถามว่าจิตพร้อมไหมถ้าจะละกายนี้ ก็บอกเลยว่าพร้อม
ทบทวนความจำกันหน่อย ความจริงรุ่นเราก็เริ่มทันสมัยนะ
สมัยนั้นที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ลงทะเบียนกันแล้ว ได้สักสองปีก่อนรุ่นผมน่าจะได้ (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๗) การลงทะเบียนยุคนั้นก็คือ ต้องไปเก็บบัตรเจาะรู (punch card) สำหรับวิชาต่างๆ มาจากกล่องที่เขาเรียงไว้บนโต๊ะ แล้วก็เอามารวบรวม ซ้อนท้ายกับบัตรที่มีชื่อเรา แล้วก็เอาไปคิดเงิน แล้วก็ยื่นให้เขา ก็ถือว่าเสร็จ ไม่กี่อาทิตย์จากนั้นก็จะมีพรินท์เอ้าท์ออกมาให้อีกที พอสิ้นเทอมก็ไปรับพรินท์เอาท์เกรดจากสำนักงานคณบดี
อยากพูดต่ออีกว่า สมัยนั้น ผมเรียนเขียนโปรแกรมครั้งแรกตอนปี ๒ พ.ศ. ๒๕๒๐ ไปลงเรียนเขียนภาษา Fortran IV ที่คณะบัญชี ก็ต้องใช้เครื่อง IBM mainframe 370 ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ (ฝั่งตรงข้าม ใกล้หอเจ้าจอม ตอนนั้นดูเหมือนยังไม่ได้สร้างมาบุญครอง) ก็ต้องไปน่ังพิมพ์บัตรเจาะรู
ความจริงยังมีบัตรเจาะรูหลงเหลืออยู่ เป็นการบ้านสมัยนั้น ใช้เป็นที่คั่นหนังสือ ยัดไว้ในเล่มไหนก็จำไม่ได้ หนังสือมีอยู่หลายพันเล่ม กระจายกันไปตามตู้ทั่วบ้าน
อีกอย่างหนึ่งที่จะพูดไว้เป็นหลักฐาน คือสมัยผมแรกเข้าปี พ.ศ. ๒๕๑๙ นั่น จุฬาฯ ยังใช้ตัวสะกดว่า "จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" ตามที่ ร. ๖ พระราชทานนามมาแต่เดิม โดยไม่มีการันต์เหนือตัว "ณ" อยู่มาวันหนึ่ง มหาวิทยาลัยไปเชิญผู้เชี่ยวชาญภาษาไทยมาอภิปราย (จำไม่ได้เรื่องอะไร) ท่านผู้นั้นคงเจนบาลีหน่อย ออกเสียงเรียกนามมหาวิทยาลัยแบบบาลีว่า "จุ ลา ลง กะ ระ นะ มะ หา วิท ทะ ลา ลัย" บ่อยๆ ไม่นานมหาวิทยาลัยก็เลยมีมติให้เติมการันต์ไปเหนือตัว "ณ" ตั้งแต่นั้น เพื่อกันคนอ่านผิดอีก ส่วนผมไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่ก็ไม่มีใครออกมาประท้วงกัน
รูปนี้หมอ ลูกเพื่อนคนหนึ่งถ่ายให้
No comments:
Post a Comment