Thursday, October 31, 2013

แวะเยี่ยมชม บ้านประทับใจ แพร่


บ้านนี้บอกว่าเป็นบ้านไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าไม่นับพระตำหนักวิมานเมฆก็น่าจะใช่
ที่น่าประทับใจมากผมพบว่าคืออัธยาศัยของทายาทเจ้าของบ้าน

A big teak home in Phrae, built using woods from original 9 teak homes.



เยี่ยมชม บ้านวงศ์บุรี แพร่

บ้านนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๐ เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ท่านเจ้าของบ้านกรุณาเปิดให้คนเข้าเยี่ยมชมเป็นขวัญตา
น่าชมมาก ค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท ถือว่าเล็กน้อยมาก
ที่แสดงไว้ด้วย น่าสนใจ แต่ห้ามถ่ายรูปมา คือตั๋วสัญญาซื้อขายทาส สมัย ร. ๕ ก่อนเลิกทาส ตั๋วสัญญานี้ เจ้าตัวจะขายตัวเองเป็นทาสก็ได้ แบบฟอร์มเป็นภาษาไทยกลาง แต่การกรอกข้อความเป็นตัวล้านนา

Ban Wongburi has been built since around 1897. This applied European home has been a residence of heirs of the governor of Phrae for 4 generations.

On display there are some old slave-selling contracts. Unfortunately, no photo was allowed. The form was in central Thai characters but the filled writing was in Lanna (northern Thai) script. Of interest was that, one sold himself as a slave using this contract as well.






เยี่ยมชม คุ้มเจ้าหลวง แพร่


แพร่มีที่สถานที่น่าชมหลายอย่าง
คุ้มเจ้าหลวง เป็นที่แรกๆ ที่เราแวะเที่ยว ผมว่าภาษาอังกฤษน่าจะแปลเป็น Phrae Governor's house ก็คือ จวนผู้ว่าราชการ น่าจะได้
บรรยากาศทำให้ผมนึกถึงบ้านสมัยผมยังเด็กๆ
มีของโบราณให้ดูหลายอย่าง มีพ่นสี ม.ท. แสดงว่าเป็นครุภัณฑ์ของหลวงไว้แยะ แต่มีชาวแพร่บอกเราว่า ของที่นี่หายไปเสียแยะแล้ว เพราะว่าผู้ว่าฯ สมัยต่อๆ มาเมื่อย้ายไปก็เอาไปเป็นของตัวก็มาก

ที่น่าสนใจ แต่สะพรึงกลัวก็คือ ใต้ถุนอาคารเป็นคุก มีป้ายแนะว่า จะผ่านเข้าไปชมให้เดินถอยหลัง













กินข้าวริมน้ำเจ้าพระยาที่บางไทร


อาทิตย์ที่แล้วขึ้นเหนือ ความที่ออกจากบ้านสายมาก เมื่อกระเพาะเรียกร้อง เลยต้องแวะกินข้าวกลางวันเสียก่อนที่ บางไทร

ร้านริมน้ำบางไทร เป็นร้านที่ผมและภรรยาชอบมากินข้าว บางทีก็มาด้วยกันสองคน หรือมากับลูก แต่ต่างคนต่างมากับคนที่ที่ทำงานของตัวเองก็มีบ้าง อยู่เลยศูนย์ศิลปาชีพไปหน่อย ตรงหัวโค้ง

อาหารอร่อยใช้ได้ ปลาก็สด ถ้าไม่มีใครชวนชิม ผมนี่แหละชวนได้ ที่เน้นๆ ก็พวกปลาน้ำจืดหลายอย่าง ร้านนี้ ตกเที่ยงคนก็มากินแน่นทีเดียว

ชมวิวก็แล้วกัน

แม่น้ำเจ้าพระยาเดือน ๑๑ น้ำนอง นี่ขนาดลดระดับแล้ว ก่อนหน้านี้สูงกว่านี้ เพราะฤทธิ์ใต้ฝุ่นที่เข้าเวียดนามและอีสาน ๒ ลูก เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน

ภาพเรือโยงวันนี้ คล้ายกับเมื่อ ๕๐ ปีก่อน เรือลากจูงยังเป็นทรงเดิมๆ ก็มี แต่เรือโยงไม้อ้วนๆ หายไปแล้ว เปลี่ยนมาเป็นเรือเหล็กลำใหญ่แทน
สมัยก่อนเรือโยงขนสินค้าสารพัด ตอนนี้เห็นขนแต่ทราย ไปสร้างตึกในกรุงเทพฯ





Wednesday, October 30, 2013

ร่วมทอดกฐิน จ. น่าน ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖

ศิษย์เก่า คณะวิทยาศาสตร์ มช. รหัส ๒๒ และญาติมิตร ร่วมทอดกฐิน วัดหาดผาคำ อ. ภูเพียง จ. น่าน
โพสต์รูปไว้ให้อนุโมทนา







Tuesday, October 22, 2013

Visited a book fair in Bangkok

There are 2 major annual book fair events in Bangkok, one in April and the other in October. I just went to the latter one today. Estimated by my eyes, the number of booths might be about 80% of the event in April. As expected, the number of visitors were less than the event in April.  But that is good thing, since I could have more roomy walking space on the aisles to look around. I bought some books at a discount, more than enough compensation for my subway cost.

I also found a booth set up by the parliament. I don't know what they are doing there but the lady there was nice. I received some free books, all published by my tax money. That includes political novels and perhaps the recently controversial winning poetry.  Darn !  I don't like that when they waste my tax money. And the recent news about extravagance of parliamentarians and the speakers make this feeling worse. I meant the news about tens of millions Baht for decoration of the Speaker's office and tens of millions of baht for satellite-linked digital chronograph clocks, for example. Damn !

Monday, October 21, 2013

ภาพวังที่ลพบุรี


โพสต์ก่อนหน้านี้ ผมได้พูดถึงหนังสือนิยายอิงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยและฝรั่งเศสเล่มนี้ ชื่อไทยว่า "รุกสยาม ในนามของพระเจ้า" แปลจากภาษาฝรั่งเศส หนังสือเรื่อง POUR LA PLUS GRANDE GLOIRE DE DIEU ของ Morgan Sportès

วันนี้เพิ่งจำได้ว่า สมัยไปเที่ยวพระราชวังที่ลพบุรี หรือ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อ ๘ ปีก่อนเคยถ่ายรูปไว้บ้าง ผมก็เลยเลือกมาโพสต์ ที่น่าสนใจก็คือ พระที่นั่ง ดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ซึ่งเป็น ท้องพระโรง ออกรับราชฑูตฝรั่งเศส ภายในมี สีหบัญชร ที่เสด็จออกขุนนางและรับแขกเมืองเข้าเฝ้า

ไปเจอบล๊อกท่านอื่นที่น่าสนใจ เลยลิงก์ไว้ด้วย

Pictures of Lopburi palace 

This note is pertinent to my previous post when I mentioned that I was reading a Thai translation of the French-Thai historical novel "POUR LA PLUS GRANDE GLOIRE DE DIEU" by Morgan Sportès. I just remembered that I took some pictures in 2005 when I and my family visited the King Narai's palace in Lopburi. The throne hall, Dusitsawanthanyamahaprasat, was where he received the French envoys some 300 years ago. I selected some to post here. Interestingly, an old drawn picture (by French artist) was much extended than the remaining structure. That might explain why I thought it was a too small hall when I first visited it.









Sunday, October 20, 2013

ภาพจากดอยติ

เมื่อต้นปีนี้ วันที่ ๒๓ กุมภาพันธุ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ พวกเราไปร่วมทอดผ้าป่าที่วัดดอยติ ปากทางเข้าเมืองลำพูน ดอยนี้ไม่ไกลจากที่ดินผมเท่าไร ในภาพจะเห็นว่าช่วงนั้นเขากำลังบุทองจังโกบนพระเจดีย์บนดอยพอดี เราก็เลยได้ร่วมบุญด้วย

บนดอยนี้มีรูปครูบาศรีวิชัย ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ เมื่อถ่ายภาพจะเห็นมีผึ้งไปทำรังอยู่บนนั้นแยะทีเดียว








วัดเมืองลำพูน วัดแม่สารป่าแดด

ผมไปลำพูนก็ขับรถผ่านวัดนี้บ่อยๆ เห็นวัดสวยดี ไม่เคยได้แวะวัดนี้เลย เมื่อเร็วๆ นี้จึงได้แวะ ป้ายชื่อบอกว่าชื่อ วัดแม่สารป่าแดด ทางเข้ามีซุ้มประตูเป็นสิงห์คู่ และมีตุงกระด้างประดับ เลยจอดรถนอกประตูวัด เดินเข้าไปชมภายใน ภายในมีเจดีย์ ตอนบนบุทองจังโก พระอุโบสถแม้จะสร้างใหม่ก็สวยดี ทาสีทอง
วัดนี้เป็นวัดขนาดเล็ก แต่ดูแล้วชาวบ้านแถวนี้ดูแลกันดี
มีข้อมูลน่าสนใจอยู่ที่นี่